Wednesday, February 27, 2013

The Avengers ถ่ายที่ไหนกันแน่


ไหนๆก็พูดถึงเรื่อง VFX ขอเอาเบื้องหลัง VFX ของเรื่อง The Avengers หนึ่งในภาพยนต์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้า ครั้งที่ 85 นี้ แต่พลาดท่าเสียทีให้กับ Life of Pi  เรามาดูกันดีกว่าครับว่า หนังที่สร้างรายได้มหาศาล (ลงทุนก็มหาศาล)  นั้นเขาทำกันยังไง

เกือบจะทุกฉากที่ท่านเห็นว่าเป็น นิวยอร์ก จริงๆแล้วนั้น เป็นนิวยอร์ก ในคอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมดครับ ใจผมก็แอบเชียร์เรื่องนี้เหมือนกันตอนออสก้า แต่ก็ต้องยอมรับ แหละครับว่า Life of Pi เขาเจ๋งจริง



ภาพยนต์เรื่อง The Avengers นั้น บริษัทหลักที่ทำ VFX ให้ก็คือ Industrial Light & Magic หรือ ILM ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Lucusfilm ของ จอร์จ ลูคัส เจ้าพ่อ สตาร์วอร์ นั่นเอง ซึ่งในตอนนี้ได้ขายบริษัท ทั้งหมดไปอยู่ภายใต้การดูแลของ Disney แล้ว ต่อไปคงต้องมาชมกันว่าจะมี เรื่องไหนออกมาให้เราตะลึงกัน ต่อไป


Tuesday, February 26, 2013

รางวัลออสก้า สาขา visual effect ดราม่าที่แสนจะเจ็บปวด


รางวัลออสก้าครั้งที่ 85 สาขา Visual Effect ปีนี้ตกเป็นของ ภาพยนต์เรื่อง Life of Pi แถมด้วยรางวัล Best Original Score, Best Cinematography และ Best Directing รวม 4 รางวัล นับว่าเป็นภาพยนต์ที่ได้รับรางวัลออสก้ามากที่สุดในปีนี้ แต่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างสูงสุดของภาพยนต์เรื่องนี้ กลับเป็น ความเจ็บปวดรวดร้าว อย่างใหญ่หลวง ของวงการ Visual Effect ใน อเมริกา

บริษัทที่อยู่เบื้องหลังภาพยนต์เรื่อง Life of Pi คือ Rhythm & Hues Studios ได้ถูกฟ้องล้มละลายไปเมื่อประมาณสองสัปดาห์ ก่อนการประกาศรางวัลออสก้า เป็นข่าวที่ดังครึกโครม ในวงการ VFX ในอเมริกา บริษัทมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 1000 กว่าคน อาจจะต้องปิดตัวแล้ว พนักงานในบริษัทอาจจะถูกลอยแพ (ตอนนี้ทางบริษัทกำลังต่อสู้ เพื่อที่จะเปิดทำการต่อไป) ความเจ็บปวดเพียงเท่านี้ยังไม่พอ ในงานประกาศรางวัล พนักงานและ บุคคลที่อยู่ในสาขาวิชานี้เกือบ 400 คนรวมตัวกันประท้วงอย่างเงียบๆ ที่หน้าสถานที่จัดงาน (แถวๆพรมแดง นั่นแหละ) แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแลเท่าไรนัก


ยังครับ ยังไม่หมด เท่านั้นยังไม่พอ เหล่า ผู้กำกับ (Ang Lee) Best Directing และ ผู้กำกับภาพ (Claudio Mirand) Best Cinematography ที่ขึ้นไปรับรางวัลบนเวที เอ่ย ขอบคุณเหล่าญาติสนิท มิตรสหาย มากมาย แต่ มิได้เอ่ยปากขอบคุณ หรือ แม้แต่เอ่ยถึงบริษัท Rhythm & Hues ผู้อยู่เบื้องหลัง เลยแม้แต่นิดเดียว ลำพัง ภาพต่างๆที่ทุกท่านได้เห็นว่าสวยงาม ก็ถ่ายใน สตูดิโอ แล้วที่เหลือ เป็น CG ( Rhythm & Hues ขึ้นชื่อเรื่อง Animal CG specialist) ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเสือตัวเอก ของเรื่อง โลมายักษ์ ท้องทะเลยามคำคืนที่มีแพลงตอนเรืองแสงที่สวยงาม ล้วนแล้วแต่สร้างขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของ พนักงานร้อยกว่าชีวิตในบริษัททั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ฝ่าย design, vfx artist, Engineer และอื่นๆ

ยิ่งกว่านั้นไม่รู้ว่าจะเป็นความผิดของผู้จัดงาน ไม่รู้ว่าจงใจหรือบังเอิญ ในขณะที่ Bill Westenhofer (ตัวแทนขึ้นรับรางวันสาขา Visual Effect) กล่าวขอบคุณบรรดาผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน และในขณะที่กำลังกล่าวถึง บริษัท Rhythm & Hues ก็ได้มี sound effect จากภาพยนต์เรื่อง JAW เข้ามา แล้วไมค์ก็ได้ถูกตัดไป

“Sadly, Rhythm & Hues is suffering serious financial difficulties now. … I urge you all to remember …”

ถ้าได้ดูจะเห็นว่าพี่แกยังพูดไม่จบเลย (มีคนจับเวลาพี่แกพูดทั้งหมด 43 วินาทีแล้วโดนตัด) ในขณะที่ Ang Lee ได้พูด เกือบ 3 นาทีตอนขึ้นรับรางวัล

เหล่าผู้ที่ทำงาน VFX ทั้งหลายจึงรวมตัวกัน ประท้วงด้วยการเปลี่ยนรูป Profile Picture เป็นสีเขียว (Green Screen) โดยหวังว่าจะได้รับการตอบกลับจากทางผู้สร้างและผู้กำกับ

ผมเข้าใจครับว่าของแบบนี้มีทุกวงการ ไม่ว่าจะที่ไหนในโลก แต่อย่างน้อยคำขอบคุณ หรือ การแสดงความเห็นใจ ผู้ที่ร่วมสร้างสรรค์ ในความสำเร็จของงานนั้นๆ น่าจะทำให้เขาเหล่านั้นมีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่ดี ออกมาได้อีกในภายภาคหน้า หนังไม่สามารถสำเร็จได้ด้วย ผู้กำกับ หรือ คนเพียงคนเดียวนะครับ


ดู ประวัติและเบื้องหลังการสร้าง สุดยอด Visual Effect ของ Rhythm & Hues ได้จาก ลิงค์นี้ครับ

CGI Animal Kingdom of R+H

ปล. ในนั้นมี link ไปจดหมายเปิดผนึกที่ compositor เขียนถึง Ang Lee ด้วย

แถมครับเผื่อใครอยากดู trailer ของหนังที่ได้รับออสก้าทั้งหมด ครับ ตาม link นี้เลยครับ==>

Oscar Winner Trailer


ดูแล้วจะอูู้หู เมื่อไรหนังไทยจะทำแบบนี้บ้างนะ